ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น แต่มีหลายเขื่อนที่ระดับน้ำยังต่ำกว่า 50% ของความจุอ่างฯ

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(5 ก.ย. 56) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 40,780 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 58% ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 29,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเน้นการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมาควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าที่จะถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 101 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 38% ของความจุอ่างฯ  เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 71% ของความจุอ่างฯ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,858 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 36% ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,840 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 51% ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 475 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 51% ของความจุอ่างฯ

ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ เริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,500 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 61 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 45% ของความจุอ่างฯ  เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 382 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 73% ของความจุอ่างฯ  เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 666 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 34% ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 86 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 27% ของความจุอ่างฯ และเขื่อนอื่นๆ ยังรับได้รวมกันอีกกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับในพื้นที่ภาคกลาง ที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 193 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 25% ของความจุอ่างฯ  เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาณน้ำ 104 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 43% ของความจุอ่างฯ  เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 65% ของความจุอ่างฯ

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 518 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 6 เมตร และที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 170 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในภาวะปกติ

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…